นาฬิกา BIOCERAMIC WHAT IF? รุ่นใหม่มาพร้อมผลงานในตำนานของ คีธ แฮริ่ง (Keith Haring) จากกิจกรรมสุดพิเศษ
Swatch ได้ปฏิวัติวงการนาฬิกาเมื่อปี 1983 และยังคงสร้างความสนุก บุกเบิกนวัตกรรม ความสุข และท้าทายกฏเดิมๆ ในเชิงบวกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน จุดเริ่มต้นของการปฏิวัติเกิดจากวิสัยทัศน์ในความเป็นผู้บุกเบิก และความคิดที่ว่า ‘ทุกไอเดียเป็นไปได้เสมอ’ เช่นเดียวกับในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 1984 Swatch ได้จัดงาน World Breakdance Championship เป็นครั้งแรกที่มหานครนิวยอร์ก เป็นกิจกรรมที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมสตรีทอย่างมีมนต์เสน่ห์และทำให้กีฬา ดนตรีและศิลปะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน DNA ของ Swatch ตั้งแต่แรกได้มาบรรจบกัน
เขย่าวงการ ทลายขีดจำกัด แปลกใหม่ อัดแน่นด้วยความสุขและความคิดสร้างสรรค์: กิจกรรมที่จัดขึ้นที่ The Roxy นิวยอร์กถือเป็นช่วงเวลาที่แสดง 'แอตติจูดแบบ Swatch' (Swatchitude) อย่างแท้จริง และแสดงให้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากคุณได้มอบ เวลา พื้นที่ และอิสระในการแสดงตัวตนกับคนอื่นๆ ปราศจากแรงกดดันใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีเหรียญรางวัลให้ต้องพิชิต มีเพียงแค่ความคิดสร้างสรรค์ และโอกาสในการเป็นตัวของตัวเองเท่านั้น
มีการโปรโมตกิจกรรมนี้แบบฟรีสไตล์อีกด้วย ผู้คนให้ความสนใจกับกิจกรรม และบอกกันปากต่อปากหลังจากที่มีการกระจายโปสเตอร์กิจกรรมทั่วเมือง โปสเตอร์นี้เป็นฝีมือของ คีธ แฮริ่ง ศิลปินสตรีทอาร์ตในตำนาน ที่ได้ถ่ายทอดหัวใจสำคัญของกิจกรรมนี้ รวมถึงจิตวิญญาณแห่งยุคสมัย ซึ่งออกแบบขึ้นมาสำหรับ Swatch โดยเฉพาะ คีธ แฮริ่ง ชื่นชอบกับกิจกรรมนี้มากจนถึงขั้นมาร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเพื่อช่วยคัดเลือกผู้ชนะที่จะได้รับนาฬิกา Swatch ที่ไม่เหมือนใครเป็นรางวัลไปครอง
เมื่อมองย้อนกลับไปยังงาน Swatch World Breakdance Championship ที่จัดขึ้นเมื่อปี 1984 และการฉลองให้กับความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดจากช่วงเวลา พื้นที่ และอิสรภาพ พวกเราชาว Swatch ก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ตั้งตารอคอย และขอเชิญให้คุณเป็นตัวของคุณเอง คอลเลกชัน Swatch BREAK FREE แสดงให้เห็นว่าทุกจังหวะท่วงท่าของ Swatch ต่างลงตัวไปหมด นับเป็นการร้อยเรียงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต กีฬา ดนตรี และศิลปะ เวลา พื้นที่ และอิสรภาพเข้าไว้ด้วยกัน
นาฬิกาในคอลเลกชันนี้เป็นนาฬิกาตระกูล BIOCERAMIC WHAT IF? ตัวเรือน และหน้าปัดรูปทรงสี่เหลี่ยมมอบพื้นที่แสดงฝีมือการออกแบบได้เป็นอย่างดี วัสดุสมัยใหม่นี้รับประกันได้ว่านาฬิกา Swiss-made ที่กันน้ำได้จะเบา และใส่สบาย รวมถึงมีสีสันสดใสและสะดุดตา และเช่นเดียวกับนาฬิกาในตระกูล BIOCERAMIC WHAT IF? ทุกรุ่น ที่มีดีเทลลับซ่อนอยู่ตรงฝาครอบแบตเตอรี่ด้านหลังตัวเรือน สำหรับรุ่นนี้ก็คือโลโก้ Swatch อันโด่งดัง วาดโดย คีธ แฮริ่ง จากโปสเตอร์ออริจินัล
BREAKS OFF
จะเกิดอะไรขึ้น หากเรานำสีสันสดใสจากโปสเตอร์ออริจินัลงาน Swatch World Breakdance Championship มาออกแบบนาฬิกาสุดพิเศษรุ่นนี้ ผลงานศิลปะที่ไม่เหมือนใครของ คีธ แฮริ่ง คือจุดเด่นของรุ่นนี้และเป็นการถ่ายทอดถึงช่วงเวลาที่มีมนต์เสน่ห์ได้อย่างทรงพลัง
BREAK LOOSE
จะเกิดอะไรขึ้น หากเราออกแบบโปสเตอร์ออริจินัลด้วยสีโมโนโครม การใช้สีขาวดำนับเป็นการออกแบบโปสเตอร์งาน Swatch World Breakdance Championship ออริจินัลในรูปแบบใหม่ได้อย่างน่าสนใจไม่แพ้กัน รุ่นนี้ที่มีรูปนักเต้นเบรกแดนซ์เหมือนเดิมตรงกลางหน้าปัดรูปทรงสี่เหลี่ยม เป็นการฉลองความเรียบง่ายในเอกลักษณ์ของผลงานที่มองดูก็รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของ คีธ แฮริ่ง
BREAK TIME
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเรานำดีไซน์จากนาฬิกาของ Swatch ที่ผู้ชนะได้รับมาผสมผสานกับนาฬิการุ่นใหม่แกะกล่อง นาฬิการุ่นที่ผลิตโดยใช้ดีไซน์นี้เป็นของขวัญที่มอบให้แก่ผู้ชนะงาน Swatch World Breakdance Championship ในปี 1984 เป็นนาฬิกาสำหรับนักสะสมตัวจริง ทำจากวัสดุสมัยใหม่ ถ่ายทอดช่วงเวลาที่น่าจดจำของวัฒนธรรมสตรีทได้เป็นอย่างดี
ในงานเมื่อปี 1984 นักเต้น นักดนตรี คณะกรรมการ และผู้ชมสามารถ BREAK FREE จากชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ รวมตัวกันเพื่อใช้ช่วงเวลาที่ถ่ายทอดถึงจิตวิญญาณแห่งยุคสมัยนี้ ทำให้ Swatch เป็นเจ้าแห่งความคิดสร้างสรรค์และสร้างโมเมนต์ที่น่าจดจำของช่วงเวลาที่สำคัญของวัฒนธรรมสตรีท เป็นโมเมนต์ที่ Swatch เท่านั้นที่สามารถเนรมิตขึ้นมาได้ และยังคงมีอิทธิพลทุกวันนี้ เช่นเดียวกับผลงานศิลปะของ คีธ แฮริ่ง
Swatch ตื่นเต้นที่คุณจะได้มีเวลา พื้นที่ และอิสรภาพในการเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ ได้เวลาออกมาขยับร่างกายกันแล้ว
คอลเลกชัน Swatch BREAK FREE จะวางจำหน่ายในร้าน Swatch ทั่วโลก และทางออนไลน์บนเว็บไซต์ swatch.com ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2024 เป็นต้นไป
ติดตามดูก้าวต่อไปของเรา
ประวัติเกี่ยวกับ คีธ แฮริ่ง (Keith Haring)
คีธ แฮริ่ง เป็นหนึ่งในศิลปิน ผู้ผลิตภาพยนตร์ และศิลปินแสดงสดรุ่นใหม่ชื่อดังที่สุด ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมสตรีทจากยุค 1980 แฮริ่ง ไม่เพียงแต่เข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากที่หลากหลายได้ด้วยผลงานภาพวาดอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาตามสถานีรถไฟใต้ดินเท่านั้น สถานที่ซึ่งสุดท้ายเขาได้กล่าวไว้ว่าเป็นเสมือน "ห้องแล็บ" ที่เขาได้ทดลองไอเดียใหม่ๆ แฮริ่ง ได้เริ่มจัดแสดงผลงานในแกลเลอรี่ และพิพิธภัณฑ์ทั่วโลกตั้งแต่ช่วงปี 1980 และก็ยังคงเข้าร่วมโครงการของรัฐ เช่น โครงการรณรงค์เพิ่มพูนทักษะการอ่านออกเขียนได้ และโครงการพิชิตโรคเอดส์
ก่อนเสียชีวิต คีธ แฮริ่ง ได้ก่อตั้งมูลนิธิโดยใช้ชื่อของตนเอง เพื่อสานต่อและสร้างรากฐานในการบริจาคแก่องค์กรเพื่อเด็ก และป้องกันโรคเอดส์ ตลอดชีวิตการทำงาน แฮริ่ง ได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนผนัง รูปปั้น และภาพเขียน ให้แก่โรงพยาบาล กลุ่มเด็กด้อยโอกาส และองค์กรเพื่อสุขภาพในชุมชนจำนวนมาก นอกจากนี้ มูลนิธิยังคงมุ่งมั่นในการช่วยให้ประชาชนยังคงไม่ลืม คีธ แฮริ่ง และทำให้ผู้คนได้รู้จักเขามากขึ้นด้วย
