นาฬิกาโครโนกราฟที่ไม่ใช่รุ่นลิมิเต็ดนี้มาพร้อมตัวเรือน เม็ดมะยมและปุ่มกด Bioceramic สีเทา รวมถึงสาย VELCRO® สีเทา ลูป Bioceramic สีเทาอ่อนและเย็บสีเทาอ่อนที่ตัดกัน มาพร้อมหน้าปัดสีขาวและขอบหน้าปัด Bioceramic สีดำที่มีมาตรวัดความเร็วสีขาว เรือนเวลารุ่นนี้มีหน้าปัดแสดงการจับเวลาสองอันแบบพิเศษตรงตำแหน่ง 10 และ 2 นาฬิกา หน้าปัดอันแรกมีเลข 19 (ซึ่งปกติจะเป็นเลข 60) ตรงด้านบน ส่วนอีกอันจะมีเลข 65 (ซึ่งปกติจะเป็นเลข 10) และหมายถึงปี 1965 หน้าปัดแสดงการจับเวลาเหล่านี้ผ่านการสอบเทียบให้จับเวลาได้ทั้งหมด 19 ชั่วโมง (หน้าปัดอันที่อยู่ตรงตำแหน่ง 10 นาฬิกา) และ 65 นาที (อันที่อยู่ตรงตำแหน่ง 2 นาฬิกา) ทำให้การอ่านเวลาของนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นนี้ต่างจากนาฬิกาโครโนกราฟปกติเล็กน้อย ตัวเลข 19 65 และ 60 (อยู่ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกาของหน้าปัดแสดงการจับเวลา) จะเรืองแสงสีฟ้าเมื่อโดนแสงยูวี และเป็นการคารวะนาฬิกา OMEGA Speedmaster ที่ผ่านเกณฑ์ด้านการบินจาก NASA เมื่อ 60 ปีที่แล้วในปี 1965 ฝาครอบแบตเตอรี่มีรูปดวงจันทร์ด้วย หน้าปัดของนาฬิกาทุกรุ่นในคอลเลกชันนี้มาพร้อมโลโก้แบรนด์ OMEGA X Swatch โลโก้ Speedmaster ในตำนานและโลโก้ MoonSwatch ตัวเรือนมาพร้อมกระจก biosourced ทรง box-shaped สลักตรงกลางด้วยตัว "S" สื่อถึงโลโก้ Swatch ลวดลายวงกลมอันวิจิตรบรรจงและสลับซับซ้อนบนวงแหวนด้านนอกรอบหน้าปัดและหน้าปัดย่อยแบบเว้า รวมถึงขานาฬิกาที่เรียบเนียน มีเหลี่ยมมุมสวยงาม และแน่นอนว่ามาพร้อมผิวสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ของวัสดุ Bioceramic เช่นเดียวกับนาฬิกาทุกรุ่น หลักชั่วโมง เข็มชั่วโมง เข็มนาทีและปลายเข็มวินาทีโครโนกราฟเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® เกรด A เพื่อให้ (เรืองแสงสีเขียว) ได้อย่างโดดเด่นในที่มืด
1965 SO33M106
วัสดุของตัวเรือน: ตัวเรือน เม็ดมะยมและปุ่มกดทำจากวัสดุ Bioceramic สีเทา
เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน: 42.00 มม.
ความหนาของตัวเรือน: 13.25 มม.
ความยาวตัวเรือนรวมขานาฬิกา: 47.30 มม.
กลไกควอตซ์: โครโนกราฟ
คุณสมบัติในการกันน้ำ: 3 bar
สายนาฬิกา: สาย VELCRO® สีเทา ลูป Bioceramic สีเทาและเย็บสีเทาอ่อนที่ตัดกัน
หมุดหมายสำคัญแห่งการบอกเวลา
ในช่วงยุค 1960 NASA ได้เฟ้นหานาฬิกาที่สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ทรหดขณะสำรวจอวกาศและได้เชื้อเชิญให้แบรนด์นาฬิกาส่งนาฬิกาโครโนกราฟเข้ามาทดสอบ มีหลายแบรนด์ที่ตอบกลับ รวมถึง OMEGA ที่ส่งรุ่น Speedmaster ของตัวเองมา (ST105.003 จากปี 1964), Longines กับรุ่น Wittnauer 235T และแบรนด์ ….X กับเรฟ 6238 มีเพียงเรือนเวลาเดียวเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นถึงเจ็ดรูปแบบ นาฬิกา Speedmaster ของ OMEGA นาฬิการุ่นนี้ ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงทนทานและความเที่ยงตรงที่ไม่มีใครเทียบได้ ผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการให้ทำภารกิจที่มีมนุษย์ควบคุมทั้งหมดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 1965 และถือเป็นการเปิดฉากเส้นทางอันน่าทึ่งของ OMEGA ในการสำรวจอวกาศ
หน้าปัดแสดงการจับเวลาที่ไม่มีใครเหมือน
Bioceramic MOONSWATCH 1965 มีหน้าปัดแสดงการจับเวลาสองอันแบบพิเศษตรงตำแหน่ง 10 และ 2 นาฬิกา ซึ่งเป็นการรำลึกถึงปี 1965 หน้าปัดแสดงการจับเวลาเหล่านี้ผ่านการสอบเทียบให้จับเวลาได้ทั้งหมด 19 ชั่วโมง (หน้าปัดอันที่อยู่ตรงตำแหน่ง 10 นาฬิกา) และ 65 นาที (อันที่อยู่ตรงตำแหน่ง 2 นาฬิกา) ทำให้การอ่านเวลาของนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นนี้ต่างจากนาฬิกาโครโนกราฟปกติเล็กน้อย
คุณสมบัติที่ไม่เหมือนใครของรุ่น 1965
เรือนเวลาที่เป็นเอกลักษณ์รุ่นนี้มาพร้อมตัวเรือนและตัวล็อกสายที่ทำจาก Bioceramic สีเทาและดูคล้ายกับสแตนเลส โลโก้ ตระกูลฟอนต์และเข็มนาฬิกาเหมือนกับนาฬิกา OMEGA ต้นตำรับทำให้รุ่น Bioceramic MOONSWATCH 1965 มีกลิ่นอายวินเทจอย่างเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ยังมีโลโก้ OMEGA จากสมัยนั้นที่เด่นเป็นสง่าตรงเม็ดมะยมและสายนาฬิกา
OMEGA X Swatch
คอลเลกชัน Bioceramic MoonSwatch รังสรรค์ขึ้นร่วมกับ OMEGA เป็นการนำนาฬิกา Speedmaster Moonwatch ในตำนานของ OMEGA นาฬิกาเรือนแรกที่ได้ไปดวงจันทร์ มาตีความใหม่แบบสนุกสนานและเรียบง่าย หัวใจสำคัญที่ทำให้คอลเลกชันนี้โดดเด่นในวงกว้างคือการผสมผสานนวัตกรรมวัสดุ Bioceramic ที่มาในสีพิเศษเข้ากับดีเทลการออกแบบอันโดดเด่นของ Speedmaster Moonwatch
จับจองเป็นเจ้าของรุ่น 1965
สามารถหาซื้อนาฬิการุ่นต่างๆ ในคอลเลกชัน Bioceramic MoonSwatch ได้เฉพาะในร้านค้าของ Swatch ทั่วโลกที่ร่วมรายการเท่านั้น ดูตัวช่วยค้นหาร้านค้าที่ใช้งานสะดวกของเราเพื่อค้นหาร้านค้าใกล้บ้านที่สุดที่มีรุ่น MOONSWATCH 1965จำหน่าย จำกัดสิทธิ์ในการซื้อ 1 เรือน/ 1 สาขา/ 1 คน/ 1 วันเท่านั้น
Bioceramic คืออะไร
นวัตกรรมวัสดุ Bioceramic คิดค้น พัฒนา และจดสิทธิบัตรโดย Swatch เป็นวัสดุคอมโพสิตที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร และเป็นหนึ่งในวัสดุที่ล้ำที่สุดในวงการการประดิษฐ์เรือนเวลา ประกอบด้วยส่วนผสมที่ไม่เหมือนใครกับเซรามิก 2/3 ส่วน และวัสดุ biosourced 1/3 ส่วนที่ได้จากน้ำมันละหุ่งสุดพิเศษทำให้เกิดเป็นวัสดุที่ทนทาน และทนต่อรอยขีดข่วนสูง พร้อมผิวสัมผัสแบบด้านที่สวยงาม