Swatch & Art ตำนานความรักอมตะ
เราเชื่อว่าศิลปะทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้น จากการร่วมมือกับศิลปินระดับชั้นนำรุ่นใหม่ ตลอดจนดีไซเนอร์ และสถาปนิก เพื่อก่อตั้งโรงแรม Swatch Art Peace Hotel และการสนับสนุนสถาบันด้านศิลปะที่มีชื่อเสียงเพื่อร่วมเป็นพันธมิตรกับพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่มีชื่อเสียง เพื่อสร้างผลงานชิ้นเอกสู่ข้อมือคุณอย่างไร้ที่ติ: เรารักศิลปะอย่างแท้จริง
ศิลปะแห่งการร่วมมือ
1984: Swatch World Breakdance Championship
เมื่อปี 1984 เราได้หลอมรวมโลกของกีฬา ศิลปะ และดนตรีเข้าด้วยกันในงานที่เขย่าวงการ และมาก่อนกาลสุดๆ งาน Swatch World Breakdance Championship ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ The Roxy นิวยอร์กไม่เพียงแต่เป็นการสร้างประวัติศาสตร์จากการแข่งขันเบรกแดนซ์ และดนตรีสุดมันส์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโปสเตอร์ในตำนานที่ คีธ แฮริ่ง ออกแบบขึ้นด้วย
1985: กิกิ ปิกัสโซ (Kiki Picasso)
Swatch Art Special รุ่นแรกของเราก่อกำเนิดขึ้นด้วยการร่วมมือกับ กิกิ ปิกัสโซ (Kiki Picasso) ศิลปินระดับชั้นนำ รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นมีเพียง 140 ชิ้น ที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับ "ภาพเขียนที่เล็กที่สุดในโลก" จากความร่วมมือของศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย
1985: Swatch ส่งเสริมงานสตรีทอาร์ต
ระหว่าง “งานแสดงสตรีทอาร์ต” เราได้เชิญศิลปินในเมืองชาวยุโรปมากมายออกจากแกลเลอรีเพื่อเข้าร่วมแสดงภาพในโรงละคร Stadttheater ณ เมืองบาเซิล
เรายังจัดขึ้นในปารีส ลอนดอน และเมืองอื่นๆ ทั่วโลก ทำให้เรากลายเป็นผู้บุกเบิกศิลปะในเมืองอย่างแท้จริง
1986: คีธ แฮริ่ง (Keith Haring)
ภาพการ์ตูนแนวใหม่สะดุดตาของคีธ แฮริ่ง (Keith Haring) และมีสีสันโดดเด่นไม่เหมือนใคร ขึ้นมาอยู่บน Swatch Art Specials ที่เขาเป็นผู้ออกแบบ แรงผลักดันของนิวยอร์กยุค 1980, MODEL AVEC PERSONNAGES, SERPENT, MILLES PATTES และ BLANC SUR NOIR ยังคงจับใจคนรักงานศิลปะทุกชนชั้น
1989: มิมโม ปาลาดิโน (Mimmo Paladino)
มิมโม ปาลาดิโน (Mimmo Paladino) ศิลปินแนวคอนเซ็ปชวลชาวอิตาลี ผู้ออกแบบนาฬิการุ่น OIGOL ORO แบบมินิมอลที่เราผลิตขึ้นจำกัดเพียง 140 ชิ้นเท่านั้น เราจะแจกนาฬิการุ่นแรกนี้สำหรับผู้ชนะเลิศการประกวด "Design your Swatch" ซึ่งมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1000 ราย และแจกอีก 99 รางวัลสำหรับบุคลิกแบบต่างๆ ทั่วโลก
1990: อเลสซานโดร เมนดินี่ (Alessandro Mendini)
ในปี 1996 Swatch มีบทบาทเป็นผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการสำหรับกีฬาโอลิมปิกศตวรรษในแอตแลนตา เมนดินี่ (Mendini) ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าโครงการ Swatch O'Clock ซึ่งเป็นโครงการที่ท้าทายมากสำหรับการผสมผสานงานศิลปะเข้ากับกีฬา เขาเลือกศิลปิน 12 คนจากเมืองโอลิมปิกต่างๆ เพื่อเข้ามาร่วมกันสร้าง Swatch Art Clock Towers สุดเก๋ทั้ง 12 แห่ง
และตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา สถาปนิกและดีไซเนอร์ผู้มีชื่อเสียงชาวอิตาลีรายนี้ได้ออกแบบนาฬิกา Art Special หลายรุ่น COSMESIS (1990), METROSCAPE (1990), LOTS OF DOTS (1991), SWATCH THE PEOPLE (1992), FANDANGO (1994), TAMBOUR (1994), CRYSTAL SURPRISE (1994), MONUMENTO MENDINI (1998) ซึ่งแสดงออกถึงแนวงานดีไซน์ที่ชิลๆ และขี้เล่นของเขา อีกทั้งในปี 2016 เขาได้ออกแบบ SPOT THE DOT ซึ่งเป็นงานดีไซน์แบบลายยจุดที่มีสีสันสดใส
1991: อัลเฟรด ฮัฟคุนส์ (Alfred Hofkunst)
อัลเฟรด ฮัฟคุนส์ (Alfred Hofkunst) สะกดทุกสายตาจากผู้รักงานศิลป์ทั่วโลก ด้วยศิลปะภาพลวงตาจากวัตถุต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ผลงานของศิลปินรายนี้สำหรับ Swatch เป็นงานชิ้นเล็กจากศิลปะแบบป๊อบอาร์ตแนวแกะสลัก รูปทรง และเกินความคาดหมาย ผลงาน Art Specials ที่มีเอกลักษณ์ของเขาทั้งสามแบบนี้ขายในตลาดผักในสวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรีย และอิตาลี และกลายเป็นความรู้สึกเชิงสื่อ
1992: แซม ฟรานซิส (Sam Francis)
แซม ฟรานซิส (Sam Francis) ศิลปินชาวอเมริกันผู้เป็นเจ้าของงานศิลปะสีสันโดดเด่นสดใส สร้างสรรค์ภาพกระทัดรัดในรูปแบบของนาฬิกา Swatch Art Special ถือเป็นงานศิลป์ที่คุณสามารถสวมใส่ได้จริงราวกับวาดลงบนข้อมือโดยตรง
1994: มิมโม โรเทลลา (Mimmo Rotella)
โรเทลลา (Rotella) สร้างผลงานแนว décollage ของเขาจากการฉีกโปสเตอร์ รูปภาพ และโฆษณาสิ่งพิมพ์ Art Specials ที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น เช่น MARILYN ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากคนดังในวัฒนธรรมป๊อบ และ BENGALA ซึ่งมีรูปเสือดุอยู่บนหน้าปัด
1996: นัม จุง ไพค์ (Nam June Paik)
นัม จุง ไพค์ (Nam June Paik) ชาวอเมริกันที่ถือเป็นผู้ให้กำเนิดวิดีโออาร์ต Swatch Art Special ZAPPING ของเขาให้ความรู้สึกถึงไฟและพลัง ถือเป็นนาฬิกาที่มีความฉลาดและเต็มไปด้วยข้อมูลกลมกลืนกับ Zeitgeist จากยุค '90
1996: แอนนี ลีเบอวิตซ์ (Annie Leibovitz)
แอนนี ลีเบอวิตซ์ (Annie Leibovitz) ช่างภาพมือฉมังได้ออกแบบ Art Special ตามชื่อของเธอเอง เพื่อเป็นเกียรติในแอตแลนตาโอลิมปิกส์ ปี 1996 รุ่น ANNIE LEIBOVITZ มีภาพขณะนักกีฬาฝึกซ้อมให้เลือก 10 ภาพ และถือเป็นผลงานอันน่าทึ่งและสุดยอดด้านกีฬา
1996: โยโกะ โอโนะ (Yoko Ono)
งานศิลปะของโยโกะ โอโนะ (Yoko Ono) สำหรับ Swatch เป็นงานที่ซ่อนความสง่างาม และเร้าใจ นอกจากความสันโดษแล้ว เมื่อมองอย่างพินิจคุณจะพบว่า FILM NO ยังเป็นผลงานที่สวยงามโทนสีเทาอีกด้วย 4 ดีไซน์จากซีรีส์ภาพยนตร์เรื่อง Derriere
1997: อาร์นาลโด โปโมโดโร (Arnaldo Pomodoro)
อาร์นาลโด โปโมโดโร (Arnaldo Pomodoro) เป็นช่างแกะสลักชาวอิตาลีที่มีชื่อเสียงจากผลงานบนทองสัมฤทธิ์ทรงเรขาคณิตมากมาย ROTOR ถือเป็น Art Specials รุ่นแรกแบบสแตนเลส ที่รวบรวมเอาฝีมืออันทรงพลังของศิลปินเข้ามาไว้ในชิ้นงานขนาดเล็กๆ และสุดหรูรุ่นนี้
1997: ฮันลีย์และมัวร์ (Huntley & Muir)
ซู ฮันลีย์ (Sue Huntley) และดอนนา มัวร์ (Donna Muir) ร่วมกันสร้างสรรค์ภาพสุดประทับใจมากมายจากศิลปะหลากหลายแขนง
Swatch Art Specials ที่ทั้งสองร่วมกันออกแบบนั้นเทียบเท่ากัน: WINDMEAL คือผลงานสำหรับแม่บ้านทั้งหลาย แต่ LIPSTICK จะเกี่ยวกับปริศนาการสนทนา
1999: เรนโซ เปียโน (Renzo Piano)
เรนโซ เปียโน (Renzo Piano) สถาปนิกที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบ Centre Pompidou จากภายในสู่ภายนอก สร้างสรรค์ความสุนทรีย์บน Art Special รุ่น JELLY PIANO ของเขา นาฬิการุ่นนี้ออกแบบจากภายในสู่ภายนอกเพื่อเฉลิมฉลองเสน่ของกลไกจากงานนาฬิกา และชิ้นงานที่มีความโปร่งใสสุดเท่
Swatch Art Peace Hotel, เซี่ยงไฮ้
Swatch Art Peace Hotel ตั้งอยู่ใจกลางนครเซี่ยงไฮ้ เป็นแหล่งรวมศิลปินมากมายจากทั่วโลก มีผู้เข้าพักตั้งแต่ 3 - 6 เดือน โดยมีเป้าหมายเดียวกัน: สร้างผลงานและทำงานร่วมกัน
2013: มิก้า (Mika)
มิก้า (Mika) นักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ลูกครึ่งเลบานอน-อังกฤษ ผู้สร้างสรรค์ Swatch Art Specials KUKULAKUKU และ KUKULAKUKI ทันฤดูกาลแห่งวันหยุดพักผ่อนในปี 2013 พอดี ในปี 2016 เขาออกแบบ MUMU-CUCURRUCUCU ได้อย่างสวยงาม มีหน้าปัดสีทองดูหรูและดีไซน์สดใสทรงเรขาคณิต
2013: โคเซ คาร์ลอส กาซาโด (José Carlos Casado)
โคเซ คาร์ลอส กาซาโด (José Carlos Casado) ศิลปินแนวมัลติมีเดีย นำผลงานของเขาสู่ Swatch Art Special, OFF: การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีใหม่ๆ กับงานศิลปะ และการเผชิญความจริงกับจินตนาการกับจิตไร้สำนึก นอกจากนี้เขายังนำแอป Swatch AR’t สำหรับสมาร์ทโฟนมาใช้ได้อย่างสร้างสรรค์ และเสริม OFF ด้วยประสบการณ์จาก "Augmented Reality” หรือ AR
2019: ปิกัสโซ (Pigcasso)
ในปี 2019 เราพยายามสร้างสรรค์และผลักดันด้วยการร่วมมือกับปิกัสโซ (Pigcasso) ผู้มากพรสวรรค์ และออกนาฬิการุ่น FLYING PIG BY MS สุดพิเศษและมีจำนวนจำกัด PIGCASSO
2024: Verdy
เราร่วมมือกับศิลปินกราฟิกชาวญี่ปุ่นฝีมือโดดเด่น VERDY! ผลลัพธ์ก็คือ คอลเลกชันของนาฬิกาข้อมือ 4 แบบไม่เหมือนใคร และนาฬิกาแขวนผนัง MAXI นำเสนอด้วยตัวละคร และโปรเจ็กต์ที่เป็นที่จดจำที่สุดของศิลปิน
ผลงานชิ้นเอกที่เป็นตำนานถูกสร้างสรรค์ใหม่
เซ็ตมูลนิธิมากต์ (Fondation Maeght Set)
Pol Bury และ Pierre Alechinsky ศิลปินชาวเบลเยี่ยมร่วมงานกับ Valerio Adami จิตรกรชาวอิตาลีเพื่อสร้าง Foundation Maeght Set ซึ่งเป็นเซ็ตนาฬิกาแนวแอ็บสแตรกต์สามสไตล์สุดเก๋สำหรับคุณ
Swatch x Museum of Modern Art (MoMA), นิวยอร์ก
ในกลางยุค ’90, MOMA ได้รับนาฬิกา Swatch และบรรจุไว้ในคอลเล็กชันงานออกแบบที่มีชื่อเสียงของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันมีนาฬิกาถึง 3 รุ่น: GB100 (1983), Jelly Fish (1985) และ Jelly Skin (1998) เราได้ทำงานร่วมกับสถาบันที่มีอิทธิพลแห่งนี้เพื่อขยายและจัดงานนิทรรศการพิเศษต่างๆ ขึ้น เช่น Workspheres (2001) และ Items:Is Fashion Modern? (2017) ล่าสุดเราได้รวบรวมผลงานชิ้นเอกมากมายสู่ข้อมือคน รวมถึงผลงานจากกุสทัฟ คลิมท์ (Gustav Klimt), วินเซนต์ แวน โก๊ะ (Vincent Van Gogh), ปีต โมนดรียาน (Piet Mondrian) ตลอดจนทาดาโนริ โยคู (Tadanori Yokoo) และท่านอื่นๆ
Swatch x Louvre, ปารีส
คอลเล็กชั่นเกี่ยวกับสถานที่สำคัญของปารีสในอดีตเริ่มขึ้นในปี 2001 ด้วยการเปิดร้านใน Carrousel du Louvre หลังจากนั้นไม่กี่ปี เราฉลอง Leoh Ming Pei ซึ่งเป็นสถาปนิกผู้อยู่เบื้องหลังงานออกแบบพิพิธภัณฑ์สุดโดดเด่นด้วยภาพจาก Swatch X You และแชร์คอลเล็กชั่นที่สื่อถึงความสดใสมีชีวิตชีวาของ Louvre
Swatch x Centre Pompidou, ปารีส
สถาบันในปารีสแห่งนี้ คือ สถานที่ที่ความรักของเราเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ หลังจากการเปิดตัว Kiki Picasso Art Special เป็นครั้งแรกในปี 1985 และตามมาด้วยความสำเร็จมากมายในหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับ Swatch x Centre Pompidou Collection ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน คอลเล็กชั่นนี้จะนำเสนองานศิลป์สุดยอดจาก Centre โดยศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่นฟรีดา คาห์โล (Frida Kahlo), ปีต โมนดรียาน (Piet Mondrian) และอเมดีโอ โมดิลยานิ (Amedeo Modigliani)
Swatch x Rijksmuseum, อัมสเตอร์ดัม
ในปี 2018 เราได้ร่วมกับ Rijksmuseum ซึ่งเป็นแหล่งรวมศิลปะต่างๆ ในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ เราได้ออกแบบนาฬิกาสามแบบจากงานศิลป์ในอดีตซึ่งเต็มไปด้วยสัมผัสแห่งความร่วมสมัย
Swatch x Thyssen Museum, มาดริด
ในปี 2018 เรายังได้ร่วมมือกับ Thyssen Museum เพื่อสร้างงานร่วมสมัยอันน่าทึ่งสามชิ้นเป็นผลงานสำหรับพิพิธภัณฑ์ โดยบัลทาซาร์ ฟาน เดอร์ อัสต์ (Balthasar van der Ast), ฟรันทซ์ มาร์ค (Franz Marc) และปีต โมนดรียาน (Piet Mondrian)
Swatch x National Museum of 21st Century Arts (MAXXI), กรุงโรม
เพื่อเฉลิมฉลอง Swatch Art Peace Hotel ครบรอบ 10 ปี เราได้ตั้งทีมร่วมกับ MAXXI ช่วงเวลา 12 เดือนที่ร่วมกันผลักดันโครงการสร้างสรรค์ใหม่ๆ มากมาย: คุยกับศิลปิน งานนิทรรศการ และแม้แต่งานดีไซน์แบบ Swatch X You รุ่นเฉพาะสำหรับพิพิธภัณฑ์ศิลปะศตวรรษที่ 21
Swatch X You – Château De Versailles
Swatch ฉลองครบรอบ 400 ปีของ Château de Versailles สุดตระการตาด้วยคอลเลกชัน Swatch X You สามดีไซน์ ที่ถ่ายทอดสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ สวนสุดตระการตา และตัวตัวละครอันเป็นเอกลักษณ์ของพระราชวัง โดยคอลเลกชันประกอบด้วยนาฬิกาที่คุณสามารถออกแบบเองได้ และนาฬิกา ready-to-wear ผสมผสานความงามแห่งศิลปะและประวัติศาสตร์ได้อย่างลงตัว
Swatch x Gallerie degli Uffizi
เมื่อปี 2023 หอศิลป์อุฟฟีซี (Le Gallerie degli Uffizi) ชื่อดังจากเมืองฟลอเรนซ์และผลงานศิลปะจากยุคเรเนซองส์อันมีชื่อเสียงของหอศิลป์ได้ก่อกำเนิดเป็นนาฬิกาสองรุ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานชั้นเยี่ยมของบอตตีเชลลี (Botticelli) NASCITA DI VENERE BY SANDRO BOTTICELLI และ ALLEGORIA DELLA PRIMAVERA BY SANDRO BOTTICELLI เปรียบเสมือนบทกวีสรรเสริญความงามและธรรมชาติสีพาสเทลสุดโรแมนติคสองบท
Swatch x Louvre Abu Dhabi
ผลลัพธ์จากการคอลแล็บครั้งนี้เกิดเป็นนาฬิกาที่ผสมผสานผลงานจากสองยุคและสองสไตล์อย่างไม่เหมือนใคร ศิลปะญี่ปุ่นดั้งเดิมของโฮกูไซ (Hokusai) และ Astrolabe (แอสโตรแลบ) ของอัลบัตตูตี (Al-Battûtî) ได้ผสมผสานออกมาเป็นนาฬิกาที่เป็นผลงานชิ้นโบแดง: THE GREAT WAVE OFF KANAGAWA BY KATSUSHIKA HOKUSAI & THE ASTROLABE
Swatch x Museum of Modern Art (MoMA), นิวยอร์ก
ในช่วงกลางยุค 90 MoMA ได้รับนาฬิกา Swatch และบรรจุไว้ในคอลเล็กชันงานออกแบบที่ล้ำค่าของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันมีนาฬิกาถึงสามรุ่น: GB100 (1983) Jelly Fish (1985) และ Jelly Skin (1998) เราได้ทำงานร่วมกับสถาบันที่มีอิทธิพลแห่งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ มาตลอดหลายปีและจัดงานนิทรรศการพิเศษต่างๆ ขึ้น เช่น Workspheres (2001) และ Items:Is Fashion Modern? (2017) เมื่อปี 2021 เราได้จับมือกับ MoMA เพื่อสร้างสรรค์นาฬิกาที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกุสทัฟ คลิมท์ (Gustav Klimt) วินเซนต์ แวน โก๊ะ (Vincent Van Gogh) ปีต โมนดรียาน (Piet Mondrian) ตลอดจนทาดาโนริ โยคู (Tadanori Yokoo) เมื่อปี 2023 เราได้เปิดตัวนาฬิกาสองรุ่น REVERIE BY ROY LICHTENSTEIN, THE WATCH และ GIRL BY ROY LICHTENSTEIN, THE WATCH ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานของรอย ลิกเตนสไตน์ (Roy Lichtenstein)
Swatch x Magritte
เมื่อปี 2023 เราได้รังสรรค์นาฬิกาสองรุ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสองภาพเขียนชื่อดังของเรอเน มากริต (René Magritte) ศิลปินแนวเซอร์เรียลิสม์เพื่อฉลองครบรอบวันเกิด 125 ปีของเขา: LA TRAHISON DES IMAGES BY RENÉ MAGRITTE ถ่ายทอดอารมณ์เดียวกันกับภาพเขียนในตำนานของเขา โดยเป็นการตั้งคำถามต่อความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งของกับคำและรูปภาพ LE FILS DE L’HOMME BY RENÉ MAGRITTE เป็นการคารวะโลกเหนือจริงของศิลปินเองที่ความเป็นจริงกับภาพลวงตาทับซ้อนกัน
Swatch x Jean-Michel Basquiat
เมื่อปี 2023 เราได้คารวะบาสเคีย (Basquiat) จิตรกร/ศิลปินกราฟฟิตี้แนวนีโอ-เอ็กซ์เพรสชันนิสม์อย่างทรงพลัง ด้วยนาฬิกาสีสันสดใสสามรุ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากที่สุดของผลงานศิลปะในตำนานบางส่วนของเขา HOLLYWOOD AFRICANS BY JEAN-MICHEL BASQUIAT, UNTITLED BY JEAN-MICHEL BASQUIAT และ ISHTAR BY JEAN-MICHEL BASQUIAT มีลวดลายที่มีชีวิตชีวาและการวิพากษ์วิจารณ์สังคมของเขา รวมถึงยังถือเป็นชุดที่นักสะสมตามหาเป็นอย่างมาก
จุดศูนย์กลางของงานศิลปะระดับตำนาน
Swatch คือพันธมิตรหลักของ Biennale Arte
เราเป็นพันธมิตรหลักของ Biennale Arte ในเวนิส ซึ่งเป็นงานนิทรรศการศิลปะร่วมสมัยที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ที่เป็นการวิจัยและส่งเสริมเทรนด์ด้านศิลปะใหม่ๆ ในระดับแถวหน้าถึงหกครั้งติดต่อกัน เราจะส่งเสริมผ่านงานนิทรรศการต่างๆ ที่เราจัดขึ้น รวมถึง Swatch Art Specials รุ่นเฉพาะกิจ
Swatch x Locarno Film Festival
งานเทศกาลภาพยนตร์โลคาร์โนจะฉลองซัมเมอร์ในเมืองสวิสด้วยภาพยนตร์มานานถึง 75 ปี โดยจะนำผลงานและผู้มีความสามารถยอดเยี่ยมมารวมตัวกันมากมาย หลังจากที่สนับสนุนงานเทศกาลมานานหลายปี ตั้งแต่ปี 2023 เรารู้สึกยินดีที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในพันธมิตรหลัก